สวัสดีมิตรสหาย.....
ชนชั้นผู้ที่ถูกปกครองของสังคมไทย หลงสำนึกตกอยู่ภายใต้วัฒนะธรรมชนชั้นปกครองเผด็จการศักดินา ตั้งฟื้นคืนกระชับอำนาจรัฐ โดยการทำรัฐประหารควบคุมประเทศด้วย กองทัพ ศาล ข้าราชการในระบอบ ได้ปล้นชิงประเทศทุกอณูโดยระบอบทั่วทุกด้าน ก่อหนี้สาธารณะ ที่เป็นตัวเลขเปิดเผยปัจจุบัน มากว่า 5.6 ล้านๆ ที่ครั้งล่าสุด เผด็จการทหาร คสช. ก่อหนี้ 4 ปี ขาดดุลงบประมาญ ถึง 2 ล้านๆ ไม่รวมเงินคงคลังที่ผลาญไปอีกมากกว่า 650,000 ล้านบาท (หกแสนห้าหมื่นล้านบาท) ที่คนรุ่นลูกรุ่นหลานประชาชนไทยต้องรับใช้แบกรับ ที่หนี้สินประเทศชนเพดาน กว่า 60% ของ GDP ประเทศ และที่แสบสันตลอดประววัติศาสตร์ของเผด็จการ ยังปล้นประเทศที่ยอมเสียค่าโง่ ในกรณีต่าง ๆ ครั้งล่าสุดด้วยการบ้าอำนาจ ใช้ ม. 44 สั่งปิดเหมืองทองที่พิจิต ที่กำลังจะหมดสัมปทาน ในอีก 3 ปี หวังปล้นชิงมาเป็นของกลุ่มผู้กุมอำนาจรัฐ ทำให้ประเทศตกเป็นเหยื่อของระบอบจักรวรรดินิยมโลก
บริษัทคิงส์เกต เจ้าของกิจการเหมืองทองที่ถูกปิด ได้ขยายการปิดล้อมบีบบังคับ ด้วยการฟ้อง อนุญาโตตุลาการ ที่ประเทศไทยที่ไม่อาจเอาชนะได้ ต้องชดใช้ค่าเสียหาย ตามมูลค่าสูงมากเกินความเป็นจริง แต่ด้วยเล่ห์กลระบอบจักวรรดินิยม ขยายการปิดล้อมบีบบังคับเหยื่อประเทศไทย บริษัทคิงส์เกตไม่เป็นผู้ฟ้องเอง กลับนำเรื่องไปฟ้อง บริษัทประกันภัย จ่ายค่าเรีบกความเสียหายตามความต้องการ แล้วให้ บริษัทประกันภัย ได้ทำหน้าที่เป็นโจทย์ยื่นฟ้องซ้อน เท่ากับ บริษัทประกันภัย ที่มีเครือข่ายธุรกิจทั่วโลก เป็นพลังปิดล้อมเหยื่อ (ประเทศไทย) ให้ตกเป็นเบี้ยล่างชดใช้ค่าเสียหายเพิ่มมากขึ้น ภายใต้กรงเล็บของจักรวรรดินิยมที่ปล้นชิงชาวโลก ผ่านกลไกสัญญา ข้อตกลงสากลระหว่างประเทศ
มันเป็นบทเรียนหนึ่งของประชาชนไทย ภายใต้การปกครองระบอบเผด็จการ ที่ได้ใช้อำนาจปล้นชิงประเทศ ผ่านโครงสร้างตามกฎหมาย และในบางด้านยังใช้ประเพณีการปกครอง แต่งตั้งผู้ควบคุมกลไกอำนาจรัฐระดับสูง เพื่อควบคุมประเทศ ให้ประชาชนถูกควบคุมภายใต้รัฐเผด็จการ
การที่ประเทศตกอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการสืบต่อมาจากโบราณ โดยซ่อนเร้นภายใต้วิธีการปดครองรูปแบบประชาธิปไตย มีการเลือกตั้งสมาชิกสถาผู้แทนราษฎร (แต่พยายามบดบังเรียกว่ารัฐสภา) และมีการเลือกสมาชิกสภาเสียงข้างมาก มาเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ
ในภาวะภายใต้การปกครองเผด็จการ ช่องทางที่จะสามารถแสดงออกพลังอำนาจอธิปไตย ของประชาชน ที่เปิดช่องทางเดียวคือ การมีโอกาสเลือกตั้ง เมื่อโอกาสมาถึงที่จะปลดเปลื้องให้สังคมไทยเรามีโอกาสหลุดพ้นจากอำนาจเผด็จการ คือการไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เพื่อให้ประเทศก้าวสู่ระบอบประชาธิปไตย อย่าตายประชดป่าช้า ที่คิดว่าไปเลือกตั้งภายใต้กฎเกณฑ์เผด็จการ ถ้าคิดรังเกลียด ไม่ไม่ใช้สิทธิ เท่ากับเรามอบอำนาจให้เผด็จการอย่างเบ็ดเสร็จ หากเราไม่ละเลยโอกาสอันดีโอกาสเดียว รณณรงค์พร้อมใจไปสำแดงอำนาจ เลือกตัวแทนพรรคฯ ฝ่ายประชาธิปไตยให้ชนะอย่างท่วมท้น ได้จัดตั้งรัฐบาล แล้วเป็นพลังผลักดันปกป้องรัฐบาล ให้ใช้อำนาจการบริหารตามระบอบประชาธิปไตย ออกคำสั่งนโยบาย ให้นำเอารัฐธรรมนูญ ที่ดีที่สุด มาเปรียบเทียบ ทำประชามติ ใช้แทนรัฐธรรมนูญปี 60 ที่เป็นพิษต่อผลประโยชน์ของประชาชน เพื่อปลดปล่อยประเทศให้พ้นจากกลไกเผด็จการ
และที่สำคัญกอบกู้ประเทศจากความเสียหายจากการทำรัฐประหารของเผด็จการ ให้ถือโอกาสใช้เสียงข้างมากในสภาออกกฎหมาย ล้มล้างผลพวงของการทำรัฐประหารทั้งปวงที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ชาติไทย แล้วนำผู้นำเผด็จการมาลงโทษ เพื่อขุดรากถอนโคนเผด็จการที่บ่อนทำลายประเทศไทยมาแล้วไม่ต่ำกว่า 70 ปี นำประเทศเข้าสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์
ระบอบการปกครองประชาธิปไตย นั้นรับใช้สังคมที่หลากหลายชนชั้น เพื่อให้เกิดที่ยืนทุกชั้นชน เข้ามามีส่วนร่วมบรรลุศักยภาพในการสร้างสรรค์ประเทศสู่รัฐสวัสดิการ
เครดิตร : พลังชน
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
-
สานสืบอุดมการณ์วู๊ดไซด์ นิวยอร์ค และ นปช. ยูเอสเอ เปิดตัวกับโฉมใหม่ ๒๗ เมษายน ๒๕๖๑ ... ชัยโย!!! โดย เอนก และ เพียงดิน สถานีนปช. ยูเอสเอ สนับ...
-
ราชกิจจาฯ ประกาศกฎกระทรวงตั้งหน่วยงานใหม่ สังกัดสตช. https://www.thebangkokinsight.com/47979
No comments:
Post a Comment