Tuesday, September 11, 2018

การก่อเกิดเสรีประชาธิปไตยสู่มหาอำนาจอเมริกา

การก่อเกิดเสรีประชาธิปไตยสู่มหาอำนาจอเมริกา
สวัสดีมิตรสหาย การปกครองระบอบศักดินาในแผ่นดิน ยุโรป  ติดต่อกันยาวนาน  สมคบประโยชน์ ระะหว่างสถาบันกษัตริย์-สถาบันศาสนา ประชาชนทุกข์ยากในยุคมืด ได้แสวงหาดิ้นรนหาความรู้การสร้างระบอบการปกครอง เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น


เมื่อ โคลัมบัส ได้พบทวีปอเมริกาถือว่าเป็นโลกใหม่ ได้ดิ้นรนไปสร้างเนื้อสร้างตัวในดินแดนทีหวังหลุดพ้นจากอำนาจรัฐศักดินา

หลังทำสงครามชนะอังกฤษ ได้ประกาศเอกราชสร้างประเทศเป็นสาธารณะ สหพันธรัฐอเมริกา มีระบบประธานาธิบดีเป็นผู้ปกป้องบริหารประเทศ ตามระบอบการปกครองประชาธิปไตย รวมศักยภาพเสรีชนที่ทุกชั้นชนได้มีส่วนร่วมในการสร้างความเจริญรุ่งเรือง สลัดคราบความล้าหลังของระบอบศักดินาที่เหนี่ยวรั้งสังคม เป็นมิติใหม่ทยานสู่ความเจริญรุ่งเรือง   โดยมีอำนาจรัฐหนุนเนื่องพลังปัจเจกเสรีชน ด้วยความมีเสรีภาพเสมอภาพในสิทธิและโอกาส ที่ได้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ที่ได้ร่วมกันร่างหลังประกาศเอกราช วันที่ 4 กรกฎาคม 1775  14 ปี    ได้ประสพความสำเร็จจากรูปแบบการปกครองที่ล้ำหน้าแห่งยุคสมัย  นำประเทศสู่มหาอำนาจ  เมื่อโลกก้าวสู่ ค.ศ. ที่ 20

ประเทศที่อุดมด้วยทรัพยากร และได้วางระบบการศึกษา บนพื้นฐานที่มีเสรีภาพล้ำหน้าระบอบศักดินาที่ล้าหลัง ประเทศได้ขยายตัวกว้างขึ้น จากความร่ำรวยมีเงินซื้อ รัฐหลุ่ยเซียน่า จากฝรั่งเศสทีมี  ซื้อนิวยอร์คจากฮอลันดา ท้ายที่สุดสมัย ประธานาธบดี ลินคอร์น ได้ซื้ออลาสก้า จากรัฐเซีย และได้ชนะสงครามขับไล่อิทธิพลของ สเปน จากทวีปอเมริกา หลังสงครามโลกได้รัฐฮาวาย  เป็นมลรัฐที่ 50

จากอำนาจทางความรู้  ได้แผ่อิทธิพลกวาดต้อนทรัพยากรขยายตลาดไปทั่วโลก รู้จักนำกำไรนั้นมาบริหารซ้ำ ส่งต่อการจ้างงานที่มีค่าแรงสูง ทำให้เกิดกำลังซื้อชีวปัจจัยเป็นแรงผลักพลังปลดปล่อยพลังการผลิต ภายในอย่างก้าวกระโดด รายได้รัฐจากภาษีที่เก็บได้มากอย่างขยายตัว   คืนกลับให้สวัสดิการสู่ประชาชน ที่สร้างปัจจัยพื้นฐานรองรับคุณภาพชีวิตชาวอเมริกันเหนือกว่าชนชาติอื่น โดยเฉพาะด้านการศึกษาถือว่าเจริญก้าวหน้ากว่าทุกชาติในโลก

แต่ทว่าจากค่าแรงงานที่สูง ได้ทำให้ค่าครองชีพที่สูงของประชาชน ส่งผลให้สินค้าอเมริกาสูงกว่าทุกชาติในโลก และเกิดการรวมศูนย์ทุนสู่ระบบการผูกขาด มีอำนาจทางการเมืองครอบครองประเทศผ่านพรรคการเมือง 2 พรรค  ภายใต้กลุ่มทุนชาวยิว ที่ไม่สังกัดสัญชาติ ที่สะสมกำไรขนาดมหึมา ได้เคลื่อนย้ายทุนออกไปทั่วโลกหลังสงครามโลกทั้งสองครั้ง เป็นการกวาดปล้นชิงหากำไรประโยชน์จากนานาชาติทุกรูปแบบ ที่ได้ใช้กองทัพของอเมริกาสนับสนุนก้าวสู่ชาติมหาอำนาจจักรวรรดินิยม ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายงบด้านความมั่นคงจากเงินภาษีของอเมริการแต่ละปีเป็นจำนวน  มีการประเมินว่า มากถึง 6% ของ GDP ที่ 70 ล้าน ๆ เหรียญที่ขยายตัวที่ติดกรอบ   เพราะสินค้าชีวปัจจัยปกติที่แพงเกิน 10 เท่า ของประเทศอื่นที่มีคุณภาพเดียวกัน เพราะค่าแรงงานที่สูงต่อเนื่องมาหลายสิบปี

สินค้าอเมริกาที่ขายได้นอกจากสินค้าด้านเทคโนโลยีที่สูงแล้ว สินค้าตัวอื่นแทบจะขายไม่ได้แล้ว คนอเมริกาที่ติดกรอบรายได้มานานส่วนใหญ่ยังต้องใช้สินค้าที่นำเข้าราคาถูกกว่าเพื่อยังชีพ  เพื่อประหยัดให้อยู่ได้เพราะรายได้ไม่พอที่จะซื้อสินค้าที่ผลิตได้ในประเทศอเมริกาเอง ทำให้แต่ปีต้องขาดทุนดุลการค้าทั่วโลกเป็นจำนวนมากเพิ่มขึ้นมาหลายสิบปีแล้ว

แต่ในสภาพนี้กลุ่มทุนผูกขาดที่กุมอำนาจรัฐ   ต้องอาศัย  ช่องทางสร้างกำไร  จากสร้างตลาดตราสารอนุพันธ์  ใช้เงินตราดอลล่าร์เป็นสินค้า   ให้เงินดอลฯ  มีฐานะเป็นเงินตรากลางในการซื้อขายของชาวโลก  ที่แต่ละวันหมุนเวียนต่อวัน มากกว่า 5 ล้าน ๆ ดอลล่าร์  โดยมากใช้ซื้อขายพลังงานน้ำมันโดย  ประเทศซาอุดิอารเบีย ประกาศใช้เงินดอลฯชี้นำราคาตลาดโลก

รายได้อีกทางหนึ่งได้จากการค้าอาวุธด้วยการอยู่เบื้องหลังการสร้างความตรึงเครียด   ในภูมิภาคต่าง ๆ ให้เกิดความขัดแย้งเพื่อให้ขายอาวุธได้

จากภาวะนี้ทำให้อเมริกาต้องตกเป็นลูกหนี้ชาวโลก ผ่านการขายพันธะบัตร และได้อาศัยการแก้ไขให้เกิดสภาพคล่องด้วยการพิมพ์เงินดอลล่าร์ออกสู่ตลาดผ่านระบบ QE  โดยไม่ได้มีอะไรค้ำประกันเงินตราในแต่ละครั้งที่พิมพ์ออกใช้ เป็นการปล้นชาวโลกด้วยการใช้เงินดอลล่าร์ในการปล้นชิง ที่มีเงินดอลล่าร์ใช้ในตลาดโลก มีการติดตามประเมิน มากกว่า 700 ล้านๆเหรียญ  ที่ทั่วโลกรู้ทันไม่ยอมรับ นำมาสู่สงครามเงินตรา ตามาด้วยสงครามการค้าในปัจจุบัน

กลางเดือนนี้ ได้มีการประชุมกลุ่มประเทศชั้นนำเศรษฐกิจที่จีน  หารือกันรับมือสงครามการค้าที่ อเมริกาเป็นผู้ก่อด้วยการขึ้นภาษี ปฏิเสธการค้าเสรีที่อเมริกาเป็นผู้นำกำหนด  ขอให้ติดตามว่าความขัดแย้งจะลงเอยอย่างไร


พลังชน
11 ก.ย. 18

No comments:

Post a Comment