Saturday, September 22, 2018

สำนึกอดีตที่ชนชั้นปกครองสกัดกั้น "จองจำสังคมไทยให้ล้าหลังตกเป็นเหยื่อจักรวรรดินิยม"

สำนึกอดีต  ที่ชนชั้นปกครองสกัดกั้น  จองจำสังคมไทยให้ล้าหลัง  ตกเป็นเหยื่อจักรวรรดินิยม

สวัสดีมิตรสหาย    ย่างเข้าเดือนเกิด  กันยายน  ปีนี้  ด้วยวัยที่ร่วงโรย  ได้ย้อนรอยประวัติศาสตร์  ปัญญาชนที่ ก้าวหน้านายเทียนวรรณ ที่ได้เสนอระบอบการปกครอง ประชาธิปไตย (พาเลียเมนท์)   ประเด็นขำต่อสังคม  ต้องติดคุกมากว่าสิบปีด้วยข้อหาหมิ่นทางการ(หมิ่นตราราชสีห์)   ต่อมาพระองค์เจ้า ปฤษฎางค์ฯและคณะ  ได้กราบทูลระบอบการปกครองประชาธิปไตย  ตอบสนองข้อปรึกษาของ ร.5   สร้างความโกรธ  ต้องลี้ภัยที่ศรีลังกา  ได้เดินทางกลับมาตายในแผ่นดินเกิด  หลังร. 5 สิ้นพระชนย์  ประเทศไทยได้ปกครองด้วยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ต่อเนื่อง  ถึงแม้ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เมื่อ 24 เม.ย. 2475 เพื่อก้าวสู่ประชาธิปไตย  ในที่สุดระบอบการปกครองประชาธิปไตยก็ถูกทำลาย  คืนกลับไปสู่ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ (ใหม่)  หลังโค่นล้มคณะราษฎร  พ.ย. 2490   ท่ามกลางการพัฒนาการของสังคมโลกที่ไม่เคยหยุดนิ่ง  พลังการผลิตของโลกได้เกิดการปฏิวัติทางอุตสาหกรรม ครั้งล่าสุดสู่ยุค 4.0 โลกได้ก้าวสู่ยุคโลกาภิวัฒน์  ก้าวข้ามซากเดนความคิดศักดินาที่เหนี่ยวรั้งจองจำสังคมไทยให้เกิดความล้าหลังในสังคมโลก   ที่มันมีราคาต้องจ่ายด้วยความทุกข์ยากบ้าหลังของประชาชน    ที่เกิดจากความทับซ้อนกดทับจากชนชั้นปกครองที่มี จักรวรรดินิยมขี่ค่อมปล้นชิงความมั่งคั่งจากประเทศไทยทุกรูปแบบ

ประชาชนไทยที่ตื่นรู้  ก็ได้เคลื่อนไหวกอบกู้สังคมไทยให้ได้ประชาธิปไตยสืบต่อ จากปัญญาชน  เทียนวรรณ- พระองค์เจ้า ปฤษฎางค์  เมื่อร้อยกว่าปีก่อน  ถึงยุคกลุ่ม น้องโบว์  และเพื่อนมิตร  เรียกร้องให้มีการเลือกตั้ง   เพราะตระหนักรู้ว่าในสังคมหลากหลายชนชั้น  ระบอบการปกครองประชาธิปไตย นั้น  จะเป็นพื้นที่นำความหลากหลายชนชั้นให้บรรลุศักยภาพ   เพื่อคัดกรองควบคุมตรวจสอบ  เพื่อสร้างสังคมไทยให้เจริญก้าวหน้ามีขีดความสามารถในการแข่งขันกับชาวโลกได้   ตามวาระกติกาของระบอบการปกครองประชาธิปไตย   ที่เปิดโอกาสให้คนทุกคนที่มีความรู้ความสามารถ  มีโอกาสนำเสนอต่อสังคมเพื่อให้ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาบริหารประเทศ  หากได้เสียงข้างมาก   และระบบก็จะมีการถ่วงดุลตรวจสอบกัน  หากเกิดความผิดพลาดไม่ผ่านมติพ่ายแพ้ไม่ได้รับความไว้วางใจจากสภา  ต้องลาออก  หรือยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่

การดำรงค์อยู่ของอำนาจรัฐเผด็จการ สืบทอดตั้งแต่โบราณ  ถ้าดีมีประโยชน์มีคุณค่า  ประเทศของเราคงเป็นประเทศมหาอำนาจ   ไม่ต้องเป็นหนี้สาธารณะ ถึง 6 ล้านๆ  ประชาชนต้องแบกรับ  และยังมีหนี้แต่ละครัวเรือนที่กดทับอีก    จากประเทศที่ร่ำ่รวยด้วยทรัพยากร  และทำเลประเทศ   ที่ควรจะเป็นดอกผลให้ประชาชนอยู่ดีกินดี   หากได้คนที่มีความรู้ความสามารถการบริหาร ก็จะสามารถสร้างรัฐสวัสดิการ   ไม่ต้องตกอยู่ในสภาพยากจน ข้าวยากหมากแพงอย่างนี้

การปกครองของชนชั้นปกครองเผด็จการไทย   ได้สมคบคิด  ให้ต่างชาติเข้ามากอบโกยทรัพยากรตั้งแต่ในอดีตย้อนกลับไปนับร้อยปี  ตั้งแต่  ป่าไม้  เหมืองแร่ต่าง ๆ  จนมาถึงปัจจุบันที่ทำการขุดแก๊ส  และน้ำมันที่ได้ทำการปล้นชิงไปจากแผ่นไทยในขณะนี้  มากว่า 7000 บ่อ  ที่ปีชะเทศไทยได้ค่าตอบแทนไม่ถึง 30%   ต่ำ่ที่สุดในโลก แต่ขายประชาชนในราคาสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้านที่นำเข้าจากประเทศไทย  และยังจะเสียค่าโง่ที่เผด็จการไทย ใช้ ม. 44 ไปยึดเหมืองทอง  และกำลังต้องชดใช้อีกให้บริษัทต่างชาติอีก ไม่น้อยกว่าสามหมื่นล้านบาท

ประเทศภายใต้การปกครองเผด็จการ   ที่ทำการปล้นชิงประเทศทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่องด้วยโครงสร้างอำนาจรัฐ  มาเป็นร้อยปี  ท่ามกลางคนส่วนใหญ่ที่หลับใหลกราบไหว้ชนชั้นปกครอง   เป็นต้นเหตุของความทุกข์ยาก  ที่คนไม้ใกล้ฝั่งได้แต่ปลงสังเวท  ลำเลียงความรันทดใจออกมานำเสนอให้คนที่ได้มีโอกาสอ่าน หวังว่าจะเกิดตาสว่างแทนยาหยอดตา


 



พลังชน
22 -9 -18

No comments:

Post a Comment