Saturday, September 8, 2018

มีหลายความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับผมตั้งแต่วันที่แหวนได้รับการประกันตัว

มีหลายความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับผมตั้งแต่วันที่แหวนได้รับการประกันตัวที่ผมอยากจะแบ่งปันให้เพื่อนเฟสบุ้คได้ทราบ อย่างแรกคือผมไม่มีความรู้สึกอยากทำกิจกรรม​เยี่ยมคนในเรือนจำอีกแล้ว หลังรัฐประหาร​ผมได้ทำกิจกรรมเยี่ยมพี่น้องในเรือนจำทุกเดือนอย่างต่อเนื่องจนถึงวันนี้ 41 ครั้ง มอบเงินช่วยเหลือผู้ต้องขังและครอบครัวทั้งคดี 112 คดีชายชุดดำ คดีขอนแก่นโมเดล คดีความมั่นคงอื่นๆรวมเป็นเงินหกแสนกว่าบาท ผมได้ทุ่มเทมอบทุกอย่างที่ผมมีให้กับเพื่อนร่วมอุดมการณ์ของผม เคสของแหวนเป็นเคสที่ผมทุ่มเทเวลาให้มากที่สุดถึงสองปีครึ่ง ไม่เพียงแหวนเท่านั้นที่ต้องการพักแต่ผมก็ต้องการพักเช่นกัน เรื่องที่สองผมอยากจะบอกว่าความช่วยเหลือทุกอย่างที่แหวนได้รับจะเป็นสิ่งที่แหวนได้รับ ผมมีรายได้จากการจำหน่ายเสื้อกิจกรรมและการสนับสนุนจากเพื่อนเฟสบุ้คเป็นการส่วนตัวเท่านั้น ซึ่งนั่นก็เพียงพ่อต่อการดำรงชีพเลี้ยงดูครอบครัวในฐานะนักกิจกรรม เรื่องที่สามมีผู้คนมากมายที่ต้องการใช้ประโยชน์จากตัวของแหวน เข้าหาแหวน ปล่อยข่าวลือ เสนอหน้า ที่แหวกแนวที่สุดคืออ้างว่าเป็นผู้ระดมเงินประกันตัวแหวน 9 แสนบาทและเงินนั้นมาจากคุณทักษิณโดยตนเองเอางานไปแลกมา แอดเฟสบุ้คไปหาแหวนชวนคุยแปลกๆ หารู้ไม่ว่าบางทีผมก็นั่งอ่านเฟสบุ้คของแหวนไปด้วยจึงรู้ว่ามีคนเอาเรื่องเหลวไหลไปให้แหวนรกสมอง เรื่องที่สามเมื่อได้พูดคุยกับแหวนนอกเรือนจำจึงพบว่าสภาพความเป็นอยู่​ในเรือนจำแย่กว่าที่ผมคิด ผู้ต้องขังต้องอยู่กันแบบแออัดเบียดเสียดกันชนิดไหล่ชนไหล่วันละ 15 ชม. อยู่​ปะปนกันหมดทั้งคนป่วยคนไม่ป่วย คนเป็นวัณโรค ติดเชื้อ HIV ขังปะปนกันเต็มไปหมด เครื่องป้องกันเดียวที่จะปกป้อง​ให้พ้นจากการติดเชื้อคือหน้ากากผ้า (ทำจากผ้าบางๆมิใช่หน้ากากอนามัยสีเขียวอ่อนที่พบทั่วไป)​ และเมื่อได้แลกเปลี่ยนกับคุณสมยศ​และคุณประเวศวันก่อนผมพบว่าสภาพความเป็นอยู่​ในเรือนจำหญิงแย่กว่าเรือนจำชายมาก และปัญหาก็มากกว่า แหวนจะบอกเล่าเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นผ่านหนังสือที่แหวนกำลังเริ่มต้นเขียน เรื่องสุดท้ายผมกำลังคิดว่าผมอาจจะยุติการทำกิจกรรมเยี่ยมพี่น้องในเรือนจำแต่เพียงเท่านี้ และแสวงหาความท้าทายใหม่ด้วยการรณรงค์​เลือกตั้ง 24 กพ 62 อย่างเต็มตัว นั่นเป็นความท้าทายใหม่ที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตนักกิจกรรม​ในอีก 6 เดือนข้างหน้า

ฟอร์ด​ เส้นทาง​สีแดง
8/9/61
ที่มา : https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2014555791938566&id=100001524930164

Thursday, September 6, 2018

งานเข้า ชาว "สหพันธรัฐ"

6 ก.ย. 2561
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับการติดต่อจากหลานสาวของ น.ส.สุรางคณาง (นามสมมติเธอขอไม่เปิดเผยตัว) ประกอบอาชีพช่างเสริมสวย โดยระบุว่าวันนี้ช่วงเวลาประมาณ 7.00 น. น้าของเธอถูกเจ้าหน้าที่รัฐเข้าควบคุมตัวไปจากบ้านย่านเขตประเวศ กรุงเทพมหานคร หลังกลับจากจ่ายตลาดพร้อมกับลูกสาว อายุ 11 ปี โดยมีทหารในเครื่องแบบ4 นาย ชายในชุดสีดำประมาณ5-6นาย และเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบหญิงสวมเสื้อสีดำติดตราเครื่องหมาย แต่เธอไม่ทราบสังกัด เดินทางมาด้วยรถตู้สีเทาหนึ่งคัน และรอ น.ส.สุราคณางอยู่ที่หน้าบ้าน



 

หลานสาวระบุต่อว่าเจ้าหน้าที่ได้แจ้งกับ น.ส.สุราคณางว่าขอพูดคุยด้วยเรื่องเสื้อยืดของเธอที่มีโลโก้ลายขาวสลับแดง และขอดูเสื้อดังกล่าว โดยไม่ได้มีหมายค้นใดๆ เธอจึงนำเจ้าหน้าที่หญิงกับทหารชายหนึ่งนายขึ้นไปตรวจดูเสื้อดังกล่าวที่ชั้นสองของบ้าน ก่อนเจ้าหน้าที่ทหารจะได้ยึดเสื้อที่เธอมีอยู่ 1 ตัวไป ยึดโทรศัพท์ของ น.ส.สุราคณาง ค้นข้าวของบางส่วนในห้อง และได้มีการยึดโทรศัพท์ในห้องไปด้วย ขณะนั้นลูกสาวของ น.ส.สุราคณางยังนั่งรับประทานอาหารรอไปโรงเรียนอยู่ ทหารได้รอจนลูกสาวเธอรับประทานอาหารเสร็จ ระหว่างนี้ได้ยึดโทรศัพท์ที่ลูกสาวเล่นอยู่ไปด้วย จากนั้นจึงนำตัวลูกสาวขึ้นรถตู้ไปพร้อมกับ น.ส.สุราคณาง เพื่อไปส่งลูกสาวที่โรงเรียน ก่อนคุมตัว น.ส.สุราคณางไป และแจ้งกับลูกสาวว่าจะนำตัวแม่ไปในเมือง โดยจะนำมาตัวกลับมาส่งที่บ้านตอนบ่าย 3 โมง

ต่อมา เวลาประมาณ 9.00 น. น.ส.สุราคณางได้โทรศัพท์ติดต่อมาที่หลานสาว ก่อนแจ้งว่า ไม่รู้ว่าอยู่ไหน เพราะถูกปิดตาขณะมาในรถ แต่ยังปลอดภัยอยู่

หลานสาวของสุรางคณางยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าประมาณ 2-3 เดือนที่แล้ว น.ส.สุราคณางได้สั่งซื้อเสื้อยืดสีดำที่มีลายลักษณะดังกล่าวมาทางอินเตอร์เน็ท จากนั้นเมื่อ 1 เดือนก่อน ได้ใส่เสื้อดังกล่าว แล้วมีบุคคลคล้ายทหาร 2 นาย แต่งชุดดำเข้ามาขอคุยด้วยที่ร้านเสริมสวยของน.ส.สุราคณาง แต่เธอได้ปฏิเสธการคุยเพราะมีลูกค้าอยู่ ชายทั้งสองคนจึงเดินทางกลับไป

ปัจจุบันศูนย์ทนายความฯ สามารถติดต่อน.ส.สุราคณางได้แล้ว เธอบอกว่ากลับถึงบ้านแล้วในเวลา 20.30 น. เธอเล่าเพิ่มเติมว่าเธอถูกนำตัวไป มทบ.11 และถูกเจ้าหน้าที่ทหารสอบถามเกี่ยวกับเสื้อดังกล่าว และเจ้าหน้าที่ยังห้ามเธอใส่และห้ามซื้อเสื้อเพิ่มอีก อีกทั้งทหารยังบอกว่าทหารได้คุมตัวคนขายแล้วและได้มีการซัดทอดถึงผู้ผลิตแล้ว

สุรางคณาเล่าว่าเครื่องมื่อสื่อสารที่ถูกยึดไปเจ้าหน้าที่ได้ตรวจดูเนื้อหาการคุยและประวัติการใช้งานโทรศัพท์ แต่ตอนปล่อยตัวเธอได้รับคืนมาหมดแล้ว และเจ้าหน้าที่ได้ให้ลงชื่อในเอกสารข้อตกลงไม่เคลื่อนไหวทางการเมืองและการควบคุมตัวเป็นไปโดยไม่มีการทำร้าย ขู่เข็ญ

ทั้งนี้ ในวันเดียวกันนี้ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับแจ้งจากแม่ของ นางวรรณภา (สงวนนามสกุล) ได้ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปจากบ้านพักย่านสำโรง จังหวัดสมุทรปราการ ไป โดยขณะนี้ยังไม่ทราบสถานที่ควบคุมตัว

รายละเอียดจากแม่ของนางวรรณภาเล่าว่า ประมาณ 07.30 น. เจ้าหน้าที่ทหารประมาณ 7-8 คน ได้ใช้รถตู้สองคัน มาควบคุมตัวนางวรรณา ซอยด่านสำโรง จังหวัดสมุทรปราการ โดยไม่ได้บอกว่าจะเอาตัวไปไหนและยังยึดเสื้อดังกล่าวไปด้วยอีกหลายตัว ทั้งนี้ขณะเกิดเหตุมีลูกชายอายุ 12 ปี อยู่ด้วย

ทั้งนี้ในเวลาประมาณ 17.45 น. ลูกชายของนางวรรณภาโทรศัพท์มาแจ้งศูนย์ทนายความฯ ว่ามีทหารมาหาที่ห้องพัก และเอาเงินมาให้ บอกว่านางวรรณภาฝากให้เอาเงินมาให้ 400 บาท แล้วบอกว่าพาไปปรับทัศนคติ แต่ไม่บอกว่าจะปล่อยตัวเมื่อไหร่

แม่ของวรรณภาสำทับด้วยว่าทุกคนเป็นห่วงความปลอดภัยของคนที่หายตัวไป อยากให้ศูนย์ฯช่วยประสานงานหาทางติดต่อและขอให้ช่วยติดตามตัว

ที่มา : http://www.tlhr2014.com/th/?p=8769

Tuesday, September 4, 2018

พรรคการเมืองบนเส้นทางแห่งการปฏิรูป

พรรคการเมืองบนเส้นทางแห่งการปฏิรูป ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ในงาน 20 ปีสถาบันพระปกเกล้าฯ พร้อมกับตัวแทนหลายพรรค ทั้งประชาธิปัตย์ เพื่อไทย ภูมิใจไทย รวมพลังประชาชาติไทย "แนวนโยบายพรรคจะอยู่ในหลัก 3 ป. คือ ปลดล็อก ปรับโครงสร้าง และเปิดโอกาส... 1.ปลดล็อก อะไรที่กดทับศักยภาพของประชาชน กฎหมายต่างๆ ที่เป็นข้อจำกัดที่ทำให้เราเดินหน้าได้อย่างเชื่องช้า เช่น กฎหมายที่เอื้อต่อการผูกขาดทางเศรษฐกิจต้องปลดออก 2.ปรับโครงสร้าง ยกตัวอย่างการปรับโครงสร้างการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการนั้นงบประมาณเยอะมาก แต่ถ้าวัดผลงานออกมาก็ต้องบอกว่าสอบตก อย่างนี้ต้องปรับ หรือการกระจายอำนาจ วันนี้อำนาจกระจุกตัวอยู่ที่กรุงเทพฯเยอะและนานเกินไปแล้ว ต้องให้คนในต่างจังหวัดมีอำนาจในการจัดตัวเอง เราต้องทำให้รัฐราชการเล็กลง ให้คนที่มีความคิดสร้างสรรค์ คนที่มีศักยภาพในต่างจังหวัดได้เกิดขึ้น 3.เปิดโอกาส เราปฏิเสธหุ่นยนต์หรือปัญญาประดิษฐ์ที่กำลังจะมาไม่ได้ ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ก็ตาม โลกาภิวัฒน์ การเปิดเสรีการค้า กำลังมา ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ก็ตามปฏิเสธไม่ได้ ดังนั้น จำเป็นต้องหาเครื่องไม้เครื่องมือเปิดโอกาสให้สังคมไทยเท่าทันโลกาภิวัฒน์"

"มีนักการทหารบอกว่า ความมั่นคงคือการเอาตัวรอด ไม่ใช่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ"

"มีนักการทหาร(เพิ่งรับทราบมาวงใน)บอกว่า ความมั่นคงคือการเอาตัวรอด ไม่ใช่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ....อจ.ว่าไงคะ"มีเพื่อน ๆ ถามมาครับ บอกว่าทหารคิดแบบนี้

ถ้าให้ผมตอบ คงต้องอ้างถึงคำพูดของท่านโคฟี อานันผู้ล่วงลับว่า
"ที่ใดมีปัญหาความมั่นคงจะพัฒนาเศรษฐกิจไม่ได้ แต่ความมั่นคงก็จะไม่อาจมีได้ ถ้าไม่มีความเจริญทางเศรษฐกิจ"

อธิบายง่ายๆคือ หากมีเหตุด้านความมั่นคงต้องรีบระงับให้เป็นปกติ เพื่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจโดยเร็วที่สุด ยิ่งเจริญมากเท่าไร มีเทคโนโลยี มีทุนมากเท่าไร ก็จะมีคนตอแยยากขึ้นเท่านั้น

ส่วนประเทศที่เอาแต่ปกครองด้วยกำลัง ประชาชนยากจน แค่โจรขโมย ปล้นชิง ก็แทบเอาไม่อยู่แล้ว อย่าไปหมายที่จะมีเงินซื้ออาวุธดีๆไปขู่คนอื่น

ใครที่เคยเล่นเกมส์สงครามกลยุทธแบบซิมมูเลชั่น ประเทศฝ่ายที่เอาแต่ไปตีคนอื่น ไม่นานทรัพยากรจะหมดและแพ้ต่อฝ่ายที่อดทนเอาแต่ขายของ หาเงินเข้าประเทศ ตอนท้ายก็มีอาวุธดีกว่าก็จะกลับมาชนะ

หลักคิดนี้ดูง่ายๆ มีใครกล้าไปยุ่งกับสิงคโปร์ ญี่ปุ่น ไต้หวันไหม ในขณะที่ประเทศใหญ่โตอย่างในอาฟริกามีแต่สงครามภายใน แย่งชิงอำนาจกันจนยากจน หรือประเทศอย่างในยุโรปตะวันออกพอหลุดจากโซเวียต ทำไมเอาแต่พัฒนาประเทศ ไม่สนใจสะสมอาวุธเหมือนเดิม

ฝากเป็นข้อคิดให้นักการทหารทั้งหลาย ให้ลองไปเล่นเกมส์หรืออ่าน หลักสงครามของทั้งจีนและตะวันตกดูครับ
https://www.facebook.com/100001641182657/posts/1979612378770116/

“เช้าค่ำเฝ้าสีซอ เข้าแต่หอล่อกามา” ทำงานทั้งวันได้พันห้า เดินไปเดินมารับห้าพัน

สวัสดีมิตรสหาย

โลกได้วิวัฒนาการก้าวหน้าตลอดระยะเวลาของประวัติศาสตร์ ที่ปัจจุบันได้ก้าวสู่พลังการผลิตก้าวสู่ยุคโลกาภิวัตน์ พลังการผลิตสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 พลังขับเคลื่อนที่สำคัญคือเกิดจากพลังปัจเจกเสรีขน    เพราะฉะนั้นชาติที่มีระบอบการเมืองการปกครอง ก้าวสู่ประชาธิปไตยได้ก่อนจึงก้าวกระโดดสู่สังคมที่ก่อเกิดความสัมพันธ์การผลิต  ที่ทำให้ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

หากคนไทยจะเราไม่รู้จักเรียนรู้ความเป็นมาของสังคมของเรา ก็เปรียบเหมือนปลาไม่รู้จักน้ำ นกบินอยู่ในอากาศไม่รู้จักท้องฟ้าประเทศไทยของเราภายใต้การปกครองเผด็จการศักดินามายาวนาน ในขณะที่ประเทศที่เจริญแล้วในยุโรป ได้วิวัฒนาการจากทุนการค้า สู่ระบอบทุนนิยม สู่การเป็นจักรวรรดินิยมขยายอำนาจการปล้นชิงชาวโลก

ฝรั่งเศสได้ส่งเรือปืนสองลำมาปิดปากแม่น้ำเจ้าพระยา สมัย ร. 4   ไม่กล้าต่อสู้ยอมเซ็นสัญญาเบาว์ริ่ง ตกเป็นเมืองขึ้นยุคสมัยใหม่ ที่จักรวรรดินิยมใช้แสนยานุภาพข่มขู่ปล้นชิงประเทศที่อ่อนเอโดยไม่ต้องส่งกองทัพเสียค่าใช้จ่ายมากเข้ายึดครองทำให้คนไทยถูกขี่คอรับน้ำหนักชนชั้นปกครอง ที่มีต่างชาติขี่คออีกชั้นหนึ่ง จึงต้องยากลำบากยากจนมากขึ้นสองเท่าโดยไม่รู้สาเหตุเพราะขาดความสำนึกทางชนชั้น แต่กลับมีความสำนึกเทียมที่เทิดทูลชนชั้นปกครอง ต่อต้านต่างชาติ เจ็บแค้นต่อสู้แทนเจ้านาย ที่ถูกครอบงำด้วยวัฒนะธรรมความคิดศักดินา ที่ซึมลึกเข้ากระดูกจองจำการก่อเกิดสำนึกความเป็นมนุษย์เสรีชน

ในสภาวะท่ามกลางการพัฒนาการทางสังคม เสรีชนบางส่วนที่ตื่นรู้ ได้ปลุกให้คนไทยได้ตื่นรู้ไม่ให้คนไทยหลงชนชั้น และชี้ให้เห็นชนชั้นปกครองศักดินา ไม่มีความคิดปลดปล่อยพลังสังคมให้ก้าวหน้า แต่กลับกระชับอำนาจให้ทายาทชนชั้นปกครองขยายเครือข่ายทายาทให้มากขึ้น ได้สร้างค่านิยมการมีนางบำเรอเพื่อได้สมสู่มากขึ้น ที่ได้บันทึกในหนังสือโบราณคดีว่า

“เช้าค่ำเฝ้าสีซอ เข้าแต่หอล่อกามา”


ซึ่งเป็นพฤติกรรมของชนชั้นปกครองปลุกฝังให้เกิดค่านิยมของอภิสิทธิชนของกลุ่มอำมาตย์ศักดินา   เพื่อขยายเผ่าพันธ์ุ อำมาตย์ชั้นรองลงมา  มักจะจับคนรับใช้หญิงตกเป็นทาสน้ำกามในครัวเรือนด้วยการร้อยก้น

จากค่านิยมวัฒนะธรรมศักดินาฝังแน่น มอมเมาเป็นโซ่ตรวนที่มองไม่เห็นร้อยรัด ให้ประชาชนไทยสยบยอมรับใช้ยอมรับให้ได้ผลประโยชน์จากระบบอุปถัมภ์ของผู้มีอำนาจ แต่ก็มีผู้ตื่นรู้ต่อต้านไม่สยบยอมระบอบอำนาจศักดินาที่ได้ใช้อำนาจขี่คอ ปล้นชิง ได้ก่อกบฏตั้งแต่ยุคโบราณหลายยุค เพื่อหวังปลดปล่อยพบกับชีวิตที่ดีขึ้น ตั้งแต่การเกิดกบฏผีบุญ (ผู้มีบุญ) ต้นกรุงรัตนโกสินท์ หลายละลอก ถึงแม้ไม่ประสพความสำเร็จที่ต้องต่อสู้กับคนชนชั้นเดียวกันในสงครามฟันฝ่ารบกับทาสด้วยกัน ท่ามกลางยุคสมัยที่ยุคระบอบการผลิตทุนนิยมแบ่งบาน วัฒนะธรรมศักดินายังคงจองจำฝังแน่นในสังคไทยทุกวงการอย่างเหนียวแน่น จนมีเพลงลูกทุ่ง  ได้สท้อนพลังการผลิตที่ล้าหลัง ว่า “ทำงานทั้งวันได้พันห้า เดินไปเดินมารับห้าพัน”

นี่เป็นตัวอย่างที่โซ่ตรวนวัฒนะธรรมศักดินาได้พันธนาการพลังการผลิตการพัฒนาสังคมของเราในอดีต  ที่กระแสสังคมนิยมปฏิวัติสังคมโลก พรรคคอมมิวนิสต์ไทย ได้นำพลังปฏิวัติสังคมไทยการต่อสู้ได้รับการหนุนช่วยจากทางสากล ในการต่อสู้จรยุคทำสงครามประชาชนมากกว่า 32  จังหวัด ต้องต่อสู้กับคนไทย คนจนที่ไม่สำนึกทางชนชั้น เสียชีวิตแต่ละปีทั้งสองฝ่ายเป็นจำนวนมาก ในที่สุดต้องยุติลงด้วยความพ่านแพ้หลังเกิดวิกฤติทางสากล สากลสังคมนิยม เกิดวิกฤติศรัทธากองทัพประชาชนไม่ได้รับการหนุนช่วยพึ่งตนเองด้วยการอาศัยการสนับสนุนจากประชาชนคนไทยคนส่วนใหญ่ที่ถูกดองด้วยวัฒนะธรรมศักดินาไม่ได้ ต้องเปลี่ยนแนวรบใหม่คืนเมืองกลับมาหาหนทางต่อสู้ใหม่ และหลายคนหมดหนทางในไปในการประกอบอาชีพ ได้สยบยอมสวามิภักษ์เป็นส่วนหนึ่งของ พคท.รอ

เมื่อสังคมไทยส่วนใหญ่ดักดานถูกจองจำด้วยวัฒนะธรรมศักดินา มีผู้ที่พยายามหวังชีวิตที่ดีขึ้นได้รับการอุปถัมภ์ ทรยศต่อชนชั้นตนเอง หวังได้เป็นหัวหน้าทาส กดขี่ทาสด้วยกันเองเพื่อรับใช้นายทาสศักดินา หนทางการต่อสู้เพื่อสร้างสังคมที่ดีงาม หนทางที่จับต้องได้ในการก้าวสู่การปกครองประชาธิปไตยหากจะมีโอกาสได้เลือกตั้ง เป็นหนทางที่จะได้สำแดงพลังเสรีชนในการที่จะได้เปลี่ยนวิถีชีวิต ให้หลุดพ้นจากการปกครองเผด็จการ โบราณ + เผด็จการทหาร ขอให้สลัดซากเดนความคิดวัฒนะธรรมศักดินาให้พ้นจากสมอง   เดินเข้าคูหาเพื่อพิชิตโค่นล้มเผด็จการ ในโอกาสที่เปิดให้ ให้พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยชนะมีเสียงข้างมากอย่างท่วมท้น และร่วมพลังขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องปลดโซ่ตรวนเผด็จการ

เครดิตร : พลังชน

บุคคล 2 ลักษณะ “นักต่อสู้ กับ นักโต้แย้ง”



บุคคล 2 ลักษณะ “นักต่อสู้ กับ นักโต้แย้ง”

ในขบวนการต่อสู้ นอกจากจะแยกออกเป็นประเภทต่างฯแล้ว ยังแยกออกได้ อีก 2  ประเภท คือ "นักต่อสู้ กับนักโต้แย้ง" โดย

  1. ลักษณะของนักต่อสู้ จะคิดไปข้างหน้า  หาทางต่อสู้  ไม่คอยจับผิด  คิดโต้แย้งใคร  อาศัยเวลาพิสูจน์ความจริงและผลงาน  ไม่อวดตัวเป็นสัพพัญญู รู้ทุกเรื่อง ให้คนอื่นต้องเชื่อและฟังตน   นักต่อสู้จึงมีลักษณะสร้างสรร ทำให้สังคมพัฒนา

  2. นักโต้แย้ง มีลักษณะตรงข้ามกับนักต่อสู้ ต้องหาเหตุโต้แย้ง จับผิดคนอื่นตลอดเวลา  ประเภทคนอื่นไม่ได้เรื่อง ไม่มีอะไรถูก  ความคิดเห็นของตนเท่านั้นที่ถูกต้อง  ใครไม่เชื่อและไม่ฟังตน  ก็เที่ยวว่าเขามโนผิดฯ  แต่พอความจริงปรากฏว่าตัวเองผิด  ก็จะบิดไปพูดเรื่องอื่น


นักโต้แย้งจึงไม่มีลักษณะสร้างสรร กลายเป็นคนขวางโลก เข้าร่วมวงไหนกับใครไม่ได้ วงแตกเสมอ  จึงมักจะโดดเดี่ยวอยู่คนเดียวกับหมา กับแมว เพราะไม่เถียง นักโต้แย้งจึงมักสรุปคนอื่นง่ายฯ  พอเขาคิดไม่เหมือนตน หรือไม่ฟังตน ก็สรุปเขาทันที มะโน ขายตัว ทิ้งอุดมการณ์  อยากกลับบ้าน  โดยไม่มองตัวเองไปเทียบกับคนที่ตนกล่าวหาว่าเขามีเกียรติประวัติเหนือกว่าตนเท่าไหร่

สุรชัย แซ่ด่าน
3 ก.ย. 2561

Monday, September 3, 2018

โมเดลของประเทศไทย. ติดคุกจริง !!.เมื่อใต้ถุนบ้านของประชาชนมีแร่โปแตชมหาศาล !!! เรื่องสำคัญที่ประชาชนถูกดำเนินการไว้มาตั้งแต่ พศ 2555. ด่านขุนทด โคราช. !!!! ฟัง !!! ชาวบ้านที่ตกเป็นผู้ต้องหาทั้งครอบครัว กลายเป็นผู้บุกรุกที่ดินตนเองอย่างน่าอนาถใจ. และยายเรียง แม้ชราจนเดินไม่ไหว ทำให้ลูกๆ ยังคงต้องอุ้มยายไปรายงานตัวมาจนถึงขณะนี้.หลังตกเป็นผู้ต้องหาด้วย เส้นทางของกฎหมายทำให้คนไทยติดคุกจริง !!! หลังจากใต้ถุนบ้านมีแร่โปแตชมหาศาล และการเข้าไปของกลุ่มทุน. แต่ทำไม ? คนไทยถูกใช้กฎหมายทำให้ขาดสิทธิบนแผ่นดินของตนเอง เรื่องสำคัญที่ประชาชนคนไทยขอให้ท่านนายกรัฐมนตรีตรวจสอบการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ดำเนินการด่วนก่อนที่จะเดินหน้าดำเนินการกับประชาชนคนไทยจำนวนมาก. เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับประชาชนคนไทยทุกคนอย่างแท้จริง. ติดตามเรื่องราวเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งค์นี้ค่ะ. https://www.facebook.com/100003623296672/posts/1355629421234488/